![]() |
เข้าดูแล้ว : 10096059 คน |
ร้านค้าทั้งหมด : 10 ร้าน |
สมาชิกทั้งหมด : 5600 คน |
พระเครื่องทั้งหมด :
248 องค์ |
กระดานประมูล :
144 กระดาน |
ทางลัดไป ศึกษา / วัตถุมงคล |
|
ทางลัดไป กระดานประมูล |
|
ทางลัดไป ซื้อขายพระเครื่อง |
หลวงพ่อแช่ม
ประวัติหลวงพ่อแช่ม
“พระครูวิสุทธิวงศาจาริย์ญาณมุนี” หรือ หลวงพ่อแช่ม สังฆปาโมกข์ ท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ.๒๓๗๐ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ที่ตำบลบ่อแสน อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา ในสมัยนั้นมีภัยจากพม่าเข้ามารุกรานทำให้ครอบครัวของท่านต้องย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่ บ้านฉลอง จังหวัดภูเก็ต ในวัยเยาว์หลวงพ่อแช่มคลุกคลีอยู่กับวัดฉลองมาโดยตลอด เนื่องจากพ่อแม่ของหลวงพ่อแช่ม ได้ฝากท่านให้เป็นศิษย์วัดฉลอง ซึ่งมีพ่อท่านเฒ่าเป็นเจ้าอาวาสในขณะนั้น และเมื่อเวลามาถึง หลวงพ่อแช่มก็ได้เข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณร
ต่อมาเมื่ออายุครบ ๒๐ ปี จึงได้อุปสมบท เป็นพระภิกษุสงฆ์ โดยได้รับการถ่ายทอดวิชาต่างๆจากพ่อท่านเฒ่า ทั้งวิชาในทางธรรม เช่นการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จนหลวงพ่อแช่มเกิดความคล่องแคล่วในการปฏิบัติ ทำให้มีสมาธิที่แก่กล้า นอกจากนี้ หลวงพ่อแช่มยังได้ศึกษาด้านพุทธาคมต่างๆ และได้มีโอกาสศึกษาเกี่ยวกับวิชาแพทย์แผนโบราณ การรักษาโรค เพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน
หลวงพ่อแช่มเป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ อยู่ในศีลธรรม เคร่งครัดในพระธรรมวินัย จนเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้าน และในกาลต่อมา พ่อท่านเฒ่าได้มรณภาพลง เมื่อปี พ.ศ.๒๓๙๓ หลังจากนั้น หลวงพ่อแช่มจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดฉลองในวัยเพียง ๒๓ ปี
สำหรับเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ผู้คนเคารพศรัทธาหลวงพ่อแช่มเป็นอันมาก และนับว่าชื่อเสียงของท่านนั้นโด่งดัง นั่นคือ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๑๙ หลวงพ่อแช่มได้มีบทบาทสำคัญในการเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน ที่ต้องต่อสู้กับกบฏอั้งยี่
ครั้งนั้น กบฏอั้งยี่ ต้องการปกครองจังหวัดภูเก็ต จึงเข้าทำร้ายชาวบ้าน จนทำให้ชาวบ้านหนีเข้าป่า บางส่วนที่หนีเข้าวัดฉลอง ก็มากราบนิมนต์ให้หลวงพ่อแช่มหนีไป แต่หลวงพ่อแช่มไม่หนี ซึ่งในระหว่างนั้น พวกกบฏอั้งยี่ ก็ไล่เข้ามาใกล้วัด
แต่เมื่อหลวงพ่อแช่มไม่หนีและไม่มีทีท่าหวาดกลัว ก็ทำให้ชาวบ้านเกิดกำลังใจ และยืนหยัดที่จะต่อสู้ หลวงพ่อแช่มจึงได้ทำผ้าประเจียดเพื่อโพกศรีษะคนละผืน เพื่อให้เป็นขวัญกำลังใจ เมื่อชาวบ้านมีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจแล้ว จึงไม่คิดกลัว และรวมตัวกันออกต่อต้านอั้งยี่ คราวนี้อั้งยี่ไม่สามารถทำอันตรายชาวบ้านได้เลย แต่กลับเป็นฝ่ายที่ถูกชาวบ้านรุกไล่แทน ทำให้อั้งยี่ต้องแตกกระเจิงไปคนละทิศละทาง
เรื่องนี้หลวงพ่อแช่มท่านได้ชี้แจงว่า ท่านเป็นพระสงฆ์ไม่อาจไปรบรากับใครได้ เพียงแต่ปลุกเสกพระพุทธคุณให้กับชาวบ้านไว้ป้องกันตนเท่านั้น จากนั้นเป็นต้นมา ผ้าประเจียดของหลวงพ่อแช่ม จึงเป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงการต่อต้านพวกอั้งยี่ ด้วยเหตุนี้ ทำให้พวกหัวหน้าอั้งยี่ประกาศจับตัวหลวงพ่อแช่ม โดยแลกกับเงินรางวัล เนื่องจากในเวลานั้น มีคำร่ำลือกันว่า ผ้าประเจียดของหลวงพ่อแช่มมีอานุภาพมาก ด้านแคล้วคลาด คงกระพัน คุ้มครอง ป้องภัย ทำให้ไม่มีใครสามารถทำร้ายชาวบ้านฉลองที่มีผ้าประเจียดได้เลย จนในที่สุด กลุ่มอั้งยี่ต้องมาเจรจาและยอมแพ้
ความนี้ทราบถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ซึ่งพระองค์ได้มีพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้คณะกรรมการเมืองภูเก็ต นิมนต์หลวงพ่อแช่ม มายังกรุงเทพมหานคร พระองค์ทรงปฏิสันถารกับหลวงพ่อแช่มด้วยพระองค์เอง ขณะเดียวกัน พระองค์ได้ทรงพระราชทานสมณศักดิ์หลวงพ่อแช่ม เป็น “พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี” ให้มีตำแหน่งเป็นสังฆปาโมกข์เมืองภูเก็ต ซึ่งถือได้ว่าเป็นตำแหน่งสูงสุดสำหรับเพศบรรพชิตในสมัยนั้น และ ทรงพระราชทานนาม “วัดฉลอง” เป็น “วัดไชยาธาราราม”
มรณภาพ
หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง มรณภาพเมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๔๕๑ สิริรวมอายุ ๘๑ ปี พรรษา ๖๑
วัตถุมงคล
วัตถุมงคล ของ หลวงพ่อแช่ม ที่โด่งดังมาก และท่านได้สร้างขึ้นขณะยังมีชีวิตอยู่ คือ “ผ้าประเจียด” ที่แจกจ่ายให้กับชาวบ้านเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการต่อต้านกลุ่มอั้งยี่ หลวงพ่อแช่ม ได้สร้างผ้าประเจียดขึ้นอย่างเรียบง่าย แต่ปลุกเสกได้อย่างเข้มขลังจนเกิดอานุภาพแคล้วคลาด คงกระพัน ป้องกันภัย ปัจจุบันผ้าประเจียดหลวงพ่อแช่ม จึงเป็นของดีของมงคลที่หาได้ยาก
นอกจากนี้ยังมีวัตถุมงคลอื่นๆ เช่น เหรียญสี่เหลี่ยม ปี ๒๔๓๗ เป็นเหรียญในสภาพเก่าสวยงาม และหาได้ยาก ด้านหน้าเหรียญ เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อแช่มนั่งเก้าอี้ห้อยเท้า โดยมือขวาของท่านถือพัดยศอยู่ มือซ้ายถือได้เท้ากายสิทธิ์
สำหรับ เหรียญรุ่นนี้ ปลุกเสกโดย พระเกจิอาจารย์ ชื่อดังในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นั่นคือ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ท่านได้อธิษฐานจิตปลุกเสก ที่วัดบางนมโค เพราะท่านมีความเลื่อมใสศรัทธาในหลวงพ่อแช่มอยู่แล้ว หลังจากนั้นหลวงพ่อปาน ได้นำแม่พิมพ์ไปถวายให้หลวงพ่อช่วงที่วัดฉลอง ทำให้ทางวัดฉลองจัดทำเหรียญรุ่นนี้ขึ้นมาเช่นกัน ราว 3 พันเหรียญ ลักษณะของเหรียญมีรูปแบบที่คล้ายกัน แต่จะมีความแตกต่างกัน ก็ตรงตำหนิคล้ายกับรอยจิกที่ปรากฎบนขอบเหรียญ ด้วยเหตุนี้จึงเรียกเหรียญหลวงพ่อแช่มที่ออกโดยวัดฉลองว่า “หลวงพ่อแช่ม พิมพ์เล็บจิก” หรือ “เหรียญสี่เหลี่ยม หลังเล็บจิก”
แต่ เหรียญหลวงพ่อแช่ม ทั้งสองรุ่น ต่างก็ได้รับความนิยมไม่ต่างกัน เนื่องจาก มีพุทธคุณโดดเด่นที่เหมือนกันทุกประการ ทั้งด้านแคล้วคลาด ป้องกันภัย และเมตตามหานิยม
นอกจากนี้ยังมีเหรียญอื่นๆ เช่น เหรียญ เนื้อเงินลงยา ปี ๒๔๙๗ ,เหรียญ หลวงพ่อแช่มไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์ บล็อกยันต์โค้ง ปี ๒๕๑๒ เนื้อทอง แดง หรือจะเป็น รูปหล่อลอยองค์ขนาดเล็ก ในอิริยาบถหลวงพ่อแช่ม นั่งถือพัดยศ ปี ๒๕๒๐-๒๕๒๙ เป็นต้น
ติดต่อเรา | บริการจากเรา | สมาชิก | ||||||||||||||||||||||||||
|
|
![]() |
สมัคสมาชิก | |||||||||||||||||||||||||
![]() |
ลืมรหัสผ่าน | |||||||||||||||||||||||||||
![]() |
วิธีชำระเงิน | |||||||||||||||||||||||||||
![]() |
แพ็คเก็จสมาชิก | |||||||||||||||||||||||||||
![]()
|