หลวงพ่อแดง
ประวัติหลวงพ่อแดง
“พระสมุห์ชัยยะ” หรือ “พระอาจารย์แดง โอภาโส” เดิมท่านมีชื่อว่า "ชัยยะ ผลบุญ" เกิดเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๒ ในวัยเด็ก ท่านมีความสนใจใฝ่เรียนรู้ในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก และชื่นชอบการร่ำเรียนพุทธาคม ทำให้ท่านแสวงหาความรู้ในด้านนี้มาตั้งแต่ยังไม่บวช ต่อมาพระอาจารย์แดงเข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยมี พ่อท่านสุข วัดตุยง เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาในทางธรรมว่า “โอภาโส”
ในคราแรกพระอาจารย์แดงตั้งใจจะบวชไม่นาน ขณะเดียวกัน พ่อท่านสุข ได้บอกกับพระอาจารย์แดงว่า ตัวท่านเองไม่ได้ทำการบวชให้ใครมานานแล้ว และคนที่บวชกับท่าน หากต้องการจะลาสิกขา ก็ต้องเป็นตัวท่านเองที่ทำการสึกให้เท่านั้น ซึ่งจะเป็นเพราะบุญบารมีของพระอาจารย์แดงที่จะต้องอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์นานเกินกว่าที่ตั้งใจไว้ ทำให้ในเวลาต่อมา พระอาจารย์แดงก็ยังไม่ได้สึก จวบจนพ่อท่านสุขได้มรณภาพ ทำให้ปัจจุบันพระอาจารย์แดงก็ยังคงอยู่ในชายผ้าเหลือง เป็นที่พึ่งทางจิตใจให้กับญาติโยมต่อไป
ย้อนไปเมื่อพระอาจารย์แดงบวชใหม่ๆ นั้น ท่านมีความตั้งใจในการศึกษาทางธรรมเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันก็ชื่นชอบในการร่ำเรียนเวทย์อาคมต่างๆ จาก“พ่อท่านสุข ซึ่งเป็นผู้สืบทอดสายวิชามาจาก “หลวงพ่อดำ วัดตุยง” โดยหลวงพ่อดำนั้น ท่านมีชื่อเสียงอย่างมากในด้านพุทธาคมอันแก่กล้า เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป
ในการเรียนพุทธาคมนั้น พระอาจารย์แดง ได้เคยศึกษามาก่อนที่ท่านจะบวชแล้ว ทำให้ท่านเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและเข้าใจง่าย พ่อท่านสุขจึงได้ถ่ายทอดวิชาต่างๆให้กับพระอาจารย์แดง เนื่องจากเห็นว่าเป็นผู้ที่มีความตั้งใจจริง หลังจากนั้น พระอาจารย์แดงก็ได้ใช้วิชาที่ร่ำเรียนมาจากพ่อท่านสุข มาสร้างเป็นวัตถุมงคลต่างๆ เช่น วิชาการทำผ้ายันต์ผูกหัวเรือ ได้แจกจ่ายให้กับสานุศิษย์นำไปผูกไว้ที่หัวเรือประมง ปรากฏว่า การเดินทางระหว่างออกหาปลานั้นเป็นไปอย่างปลอดภัย แคล้วคลาดจากอันตราย
พระอาจารย์แดง ท่านมีอุปนิสัยชอบธุดงค์วิเวก ไปตามป่าเขาลำเนาไพรต่างๆ เดินทางรอนแรมมุ่งหน้าไปยังป่าแถบภาคอีสาน เพื่อแสวงหาสถานที่สัปปายะในการปฏิบัติภาวนาและขัดเกลาจิตใจ ขณะเดียวกัน พระอาจารย์แดงก็ได้แสวงหาครูบาอาจารย์เพื่อร่ำเรียนวิชาอาคมอยู่ไม่ขาด และยังมีโอกาสได้ฝึกการปฏิบัติกรรมฐานกับหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ร่ำเรียนการปฏิบัติกรรมฐาน ของวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เรียนวิชากับ หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
และในที่สุด พระอาจารย์แดงก็เข้ามาจำพรรษาที่วัดไร่ ซึ่งในสมัยที่ท่านเข้ามาแรกๆนั้น ดูเหมือนว่าวัดไร่จะขาดการทำนุบำรุงมีสภาพคล้ายกับวัดร้าง ในเวลาต่อมาท่านจึงได้พัฒนา บูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะต่างๆให้อยู่ในสภาพที่ดี จนวัดไร่เจริญรุ่งเรืองตามลำดับ
วัตถุมงคล
วัตถุมงคล ของ พระอาจารย์แดง วัดไร่ มีอยู่หลายรุ่น แต่ที่โดดเด่นมากที่สุด คือ “ตะกรุดลูกปืน” ที่มีประสบการณ์มากมาย ทั้งแคล้วคลาด คงกระพัน เมตตามหานิยม ป้องกันสัตว์มีพิษ ป้องกันคุณไสยมนต์ดำและอันตรายต่างๆ โดยที่มาของการสร้างตะกรุดลูกปืนนั้นมีอยู่ว่า เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๗ พ่อท่านพุ่ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ ได้ปรากฏในนิมิตของพระอาจารย์แดง โดยท่านได้สอนวิชาการทำตะกรุดลูกปืนให้กับพระอาจารย์แดง ขณะเดียวกัน พ่อท่านพุ่มยังได้บอกถึงมวลสารสำคัญที่ตัวท่านเองเคยปลุกเสกและได้ซ่อนเอาไว้ หลังจากนั้นพระอาจารย์แดงจึงได้ไปหาที่ซ่อนมวลสารตามที่พ่อท่านพุ่มได้บอกในนิมิต ก็ปรากฎว่าพบมวลสารดังกล่าวจริง พระอาจารย์แดงจึงได้แจ้งกับลูกศิษย์ที่เป็นทหารว่า อยากได้ปลอกกระสุนปืนที่ยิงแล้ว ลูกศิษย์จึงเป็นธุระจัดหามาให้จำนวนหนึ่ง พระอาจารย์แดงจึงเริ่มสร้างตะกรุดลูกปืนตามที่พ่อท่านพุ่มบอก โดยการบรรจุมวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่ผ่านการปลุกเสกจากพ่อท่านพุ่ม ขณะเดียวกัน พระอาจารย์แดงก็ได้นำผงว่าน ๑๐๘ ที่ท่านทำการเขียนผงลบผงด้วยตนเองมาผสมลงในตะกรุดลูกปืนอีกด้วย จึงถือเป็นตะกรุดลูกปืนรุ่นแรกของ พระอาจารย์แดง ที่สร้างขึ้นตามวิชาการทำ ตะกรุ ลูกปืน ของ พ่อท่านพุ่ม ทุกประการ
ในลำดับต่อมา เมื่อท่านได้อธิษฐานจิตปลุกเสกเรียบร้อยแล้ว จึงได้ทำการโปรยตะกรุดลูกปืนรอบๆ บริเวณวัด ผู้ที่อยากได้ก็ต้องไปเก็บเอา พ่อค้าแม่ค้าต่างมาเก็บตะกรุดลูกปืนกันเป็นจำนวนมาก และปรากฏว่าการค้าขายต่างๆดีขึ้น ขายของคล่องขึ้น หรือลูกศิษย์ที่เป็นทหารนำติดตัวบูชา ปรากฏว่าแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตราย ทำให้ตะกรุดลูกปืนพระอาจารย์แดงเป็นที่แสวงหาอย่างมาก
สำหรับตะกรุดลูกปืนนั้น พระอาจารย์แดงได้เคยบอกไว้ว่า มีอานุภาพอันเข้มขลัง ด้วยเพราะผ่านการประจุพลังกฤติยาคม ตามหลักธาตุทั้ง ๔ “ดิน น้ำ ลม ไฟ” จึงทำให้เกิดพุทธคุณสูง
นอกจากนี้ยังมี วัตถุมงคล อื่นๆที่ปลุกเสกโดย พระอาจารย์แดง วัดไร่ เช่น เหรียญเจ้าสัวนิรันตราย ,หลวงปู่ทวด รุ่นทรัพย์มหาเศรษฐี ๕๘ ลังกาสุกะ และอีกหลายรุ่น ซึ่งได้สร้างตามวาระและโอกาสอันเหมาะสม