“วัดสถิตชลธาร” หรือ วัดไร่บางตาวา ต.บางตาวา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี หลายคนเรียกสั้นๆว่า วัดไร่ เป็นวัดที่สร้างขึ้นมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา แต่เดิมนั้น วัดไร่ มีสถานที่ตั้งติดกับทะเล ประกอบกับมีท่าเรือที่ไว้ใช้โดยสารผู้คน บริเวณดังกล่าวจึงเป็นพื้นที่ซึ่งมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอันมาก ประกอบกับญาติโยมที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา ทำให้วัดไร่ได้รับการพัฒนาเรื่อยมาจนเจริญรุ่งเรืองตามลำดับ แต่ด้วยเหตุที่วัดไร่มีอาณาเขตติดทะเล ทำให้ในปีหนึ่งได้ถูกน้ำท่วมพระอุโบสถ และเสนาสนะอื่นๆภายในวัด กระทั่งทำให้พื้นที่ของวัดจมหายไปกับสายน้ำ
ปี พ.ศ. ๒๔๒๐ ด้วยศรัทธาของพุทธศาสนิกชนที่มีต่อพระพุทธศาสนา ทำให้ชาวจ.นครศรีธรรมราชที่อาศัยอยู่ใน จ.ปัตตานี ได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างวัดขึ้นมาใหม่ โดยทำการสร้างศาลาการเปรียญขึ้นมาหนึ่งหลัง บนเนื้อที่ ๑๐ ไร่เศษ แต่ก็ยังคงใช้ชื่อเดิมคือ วัดไร่
ทำเนียบเจ้าอาวาส
เจ้าอาวาสวัดไร่ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน แต่ละรูปล้วนเป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นที่เคารพศรัทธาของสาธุชน ได้แก่
๑.พ่อท่านเอียด
๒.พ่อท่านราช
๓.พ่อพระครู
๔.พ่อท่านแก้ว
๕.พ่อท่านนุ้ย
๖.พ่อท่านทอง
๗.พระครูสโมสร
๘.พ่อท่านพุ่ม
๙.พ่อท่านสุข
๑๐.พระอาจารย์แดง
ในประวัติวัดไร่ได้ระบุไว้ว่า พ่อท่านพุ่มซึ่งเป็นอาวาสลำดับที่ ๘ ของวัดไร่ เป็นผู้ที่มีความเก่งกาจในวิชาอาคม เชี่ยวชาญด้านพระเวทย์อย่างมาก ทำให้ท่านได้รับศรัทธาจากญาติโยมเป็นจำนวนมาก เดินทางมากราบนมัสการอย่างต่อเนื่อง และในสมัยนั้นเอง ที่วัดไร่ มีพระลูกวัดจำพรรษาอยู่จำนวนหลายรูป
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันพระอาจารย์แดงซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดไร่ ก็ได้พัฒนาวัดไร่ให้เจริญรุ่งเรือง จนเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ประกอบกับหลวงพ่อแดงนั้น ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพุทธาคมเช่นกัน โดยเฉพาะการปลุกเสกวัตถุมงคลที่เข้มขลัง มีประสบการณ์หลากหลายรุ่น ทำให้หลวงพ่อแดงได้รับความเคารพนับถือจากสาธุชนทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่