![]() |
เข้าดูแล้ว : 10096056 คน |
ร้านค้าทั้งหมด : 10 ร้าน |
สมาชิกทั้งหมด : 5600 คน |
พระเครื่องทั้งหมด :
248 องค์ |
กระดานประมูล :
144 กระดาน |
ทางลัดไป ศึกษา / วัตถุมงคล |
|
ทางลัดไป กระดานประมูล |
|
ทางลัดไป ซื้อขายพระเครื่อง |
หลวงพ่อมุ่ย
ประวัติหลวงพ่อมุ่ย
หลวงพ่อมุ่ย เกิดเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๓๑ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือนอ้าย ปีฉลู ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๕ ณ.บ้านดอนไร่ อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรของพ่อเหมือน แม่ชัง มีศรีไชย มีพี่น้องทั้งหมด ๕ คน ในวัยเด็กเนื่องด้วยครอบครัวของท่านมีอาชีพทำไร่ทำนา ในวัยเด็กของท่านจึงมีชีวิตตามประสาเด็กชนบททั่วไป และเมื่อวัยหนุ่มท่านได้เข้ารับการเกณฑ์ทหาร ผลว่าท่านถูกเกณฑ์เป็นทหารและทางอำเภอได้ส่งตัวท่านไปยังจังหวัด แต่ท่านก็ต้องถูกส่งตัวกลับมาด้วยเหตุผลประการใดไม่ทราบ สรุปคือท่านไม่ได้เป็นทหารแน่นอน
ภายหลังจากการเกณฑ์ทหารเรียบร้อยแล้ว ท่านได้เข้ารับการอุปสมบทตามธรรมเนียมประเพณีของคนไทย เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๔๕๒ ณ. พัทธสีมาวัดท่าช้าง ตำบลท่าช้าง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีพระครูศีลกิติ (หลวงพ่อกฤษณ์) วัดท่าช้าง เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอนุสาวนาจารย์ไม่ทราบชื่อ ซึ่งในช่วงนี้ท่านได้เข้ารับการศึกษาเล่าเรียนวิชาต่างๆจากพระอาจารย์ต่างๆอยู่พอสมควร
ท่านอุปสมบทได้ประมาณสิบกว่าพรรษาก็ได้ลาสิกขาบท เพื่อมาช่วยบิดามารดาซึ่งชราแล้วทำไร่นา ในช่วงนี้ท่านได้เกิดล้มป่วยแทบเอาชีวิตไม่รอด ยากจะดูแลรักษาให้หายได้ ท่านจึงได้ตั้งสัจจะอธิษฐานไว้ว่า หากหายจากอาการเจ็บป่วย จะฝากกายถวายชีวิตในพระพุทธศาสนาตลอดไป และเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนักต่อมาอาการเจ็บป่วยของท่านก็ได้หายไป และช่วงนี้ท่านก็ได้เปลี่ยนชื่อจาก เชื่อม มาเป็น มุ่ย สรุปแล้วท่านลาสิกขาบทมาได้ไม่กี่เดือนก็อุปสมบทใหม่เป็นครั้งที่สอง
ท่านได้อุปสมบทเป็นครั้งที่สอง เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม พ.ศ.๒๔๖๕ เวลา ๑๕.๓๐ น. ณ. พัทธสีมาวัดตะค่า(วัดดอนบุบผารามในปัจจุบัน) ตำบลบ้านกร่าง อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีพระครูธรรมสารรักษา (หลวงปู่อ้น) วัดดอนบุบผาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ทวน วัดบ้านกร่าง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์กุล วัดดอนบุบผาราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับชื่อทางพระพุทธศาสนาจากพระอุปัชฌาย์ว่า พุทฺธรักฺขิโต
โดยหลวงพ่อมุ่ย เป็นผู้ชอบศึกษาหาความรู้อยู่เสมอๆ จึงทำให้ท่านมีความชำนาญและเชี่ยวชาญในศาสตร์หลายแขนง อาจารย์ที่ท่านไปศึกษามานั้นมีมากมาย อาทิ หลวงปู่อ้น วัดดอนบุบผาราม พระเกจิอาจารย์ยุคเดียวกับ หลวงพ่อเนียม วัดน้อย, หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา, หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท, พระอาจารย์กูน วัดบ้านทึง อ.สามชุก, หลวงพ่อปลั่ง วัดวิมลโภคาราม อ.สามชุก ฯลฯ
เป็นเจ้าอาวาสวัดดอนไร่
หลังจากชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างวัดดอนไร่ขึ้นมาแล้วแล้ว ก็ได้นิมนต์หลวงพ่อปลั่ง วัดวิมลโภคารามมาเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก อยู่ช่วยสร้างวัดได้๑พรรษา หลวงพ่อปลั่งก็ได้ย้ายกลับไป
ในปี พ.ศ.๒๔๕๘ หลวงพ่อพลอยได้มาเป็นเจ้าอาวาสรูปที่สองอยู่ได้๕พรรษาก็ลาสิกขาบท จึงทำให้วัดดอนไร่ว่างเว้นเจ้าอาวาสอีกครั้งหนึ่ง
ในปี พ.ศ.๒๔๖๖ ภายหลังจากการอุปสมบทครั้งที่สองของหลวงพ่อมุ่ย ชาวบ้านได้นิมนต์ท่านมาพำนักจำพรรษาที่วัดดอนไร่ ท่านก็ได้ริเริ่มพัฒนาวัดตั้งแต่นั้นมา
ในปี พ.ศ.๒๔๗๖ ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลหนองสะเดา ท่านจึงมีภาระมากขึ้นด้วยว่ามีเขตการปกครองขว้างขวาง วัดใดเสื่อมโทรมก็ต้องเข้าไปดูแลพัฒนาซ่อมแซม รวมไปถึงวัดภายนอกเขตปกครองด้วย แต่ท่านก็ไม่ย่อท้อ ขยันหมั่นเพียรดูแลรักษาและพัฒนาจนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
ภาระหน้าที่
หลวงพ่อมุ่ยได้สร้างพระอุโบสถหลังเก่าของวัดดอนไร่ ก่อด้วยอิฐไม่ได้ฉาบปูน หลังคามุงหญ้าแฝก ซึ่งได้ฝังลูกนิมิตไปในปี พ.ศ.๒๔๘๒ กุฏิสงฆ์ หอสวดมนต์ สิ่งก่อสร้างเหล่านี้ซึ่งสร้างจากไม้เป็นหลัก ซึ่งไม้ดังกล่าวหลวงพ่อมุ่ยท่านจะเป็นผู้นำกองเกวียนของบรรดาชาวบ้านเข้าป่า เพื่อไปตัดไม้ดังกล่าวมาสร้างวัดเองโดยตลอด จึงเป็นภาระอันหนักยิ่งของท่านในสมัยนั้น
ในปี พ.ศ.๒๔๙๖ ท่านได้รับแต่งตั้งจากคณะสงฆ์เป็นพระอุปัชฌาย์ มีกุลบุตรมากมายมาให้ท่านอุปสมบทให้ รวมทั้งลาสิกขาบทจากท่าน ซึ่งในสมัยนั้นทั้งอำเภอมีพระอุปัชฌาย์แค่เพียง๒รูปเอง จึงกล่าวได้ว่าในสมัยนั้นชาวสามชุกค่อนอำเภอบวชโดยหลวงพ่อมุ่ย
มรณภาพ
ในปี พ.ศ.๒๕๑๖ หลวงพ่อมุ่ยเริ่มอาพาธ ล่วงถึงกลางปีก่อนเข้าพรรษาอาการอาพาธด้วยโรคชรานี้ได้ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อเห็นอาการไม่ดีขึ้นจึงได้นำหลวงพ่อเข้ารับการรักษา ทำให้ตลอดพรรษานี้หลวงพ่อต้องจำพรรษาอยู่ที่คลินิกของแพทย์ผู้เป็นลูกศิษย์
และก่อนหน้าฤดูเทศกาลกฐินหลวงพ่อก็ได้กลับมาที่วัด ทำให้ลูกศิษย์ลูกหาดีใจมาก จัดขบวนต้อนรับกันยิ่งใหญ่ แต่หารู้ไม่ว่าการกลับมาครั้งนี้เป็นการจากลาของหลวงพ่อ ล่วงถึงเวลา ๐๗.๑๕ น. ของวันที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ.๒๕๑๗ หลวงพ่อมุ่ยก็ละสังขารลงด้วยอาการสงบ สิริอายุ ๘๕ ปี ๔๑ วัน
วัตถุมงคล
หลวงพ่อมุ่ย เป็นผู้มีวิชาอาคมสูง พระเครื่องที่ท่านปลุกเสกจึงมีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ในทุกด้าน จนเป็นที่ประจักษ์ของชาวบ้านในพุทธคุณต่างๆ พระเครื่องหลวงพ่อมุ่ย มีหลายอย่าง อาทิ รูปเหมือนปั๊ม, เหรียญรูปเหมือน, พระพิมพ์สมเด็จ, ผ้ายันต์, ตะกรุด, พระกริ่ง, เครื่องราง ฯล
โดยเฉพาะรูปเหมือนปั๊ม รุ่นแรก ช่างแกะแม่พิมพ์ได้แกะชื่อท่านผิดไป โดยแกะเป็น “หลวงพ่อมุ้ย” วงการนักสะสมพระสายนี้จึงเรียกพระรุ่นนี้ว่า “รูปเหมือนไม้โท” ต่อมาจึงได้แก้ไขใหม่โดยช่างได้แกะชื่อหลวงพ่อถูกต้อง คือ “หลวงพ่อมุ่ย” วงการเรียกพระรุ่นนี้ “รูปเหมือนไม้เอก” ความผิดพลาดนี้กลับทำให้ “รูปเหมือนไม้โท” มีการเช่าหาแพงกว่า “รูปเหมือนไม้เอก” หลายเท่า
ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตอีกกรณีหนึ่ง คือ เหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อมุ่ย ส่วนมากจะแกะเพียงชื่อ “หลวงพ่อมุ่ย” และ “วัดดอนไร่” เท่านั้น ไม่มีรายละเอียดอื่นๆ และส่วนใหญ่มักจะเป็นรูปแบบเหรียญที่ไม่เหมือนกับของพระเกจิอาจารย์ท่านอื่นใด
ติดต่อเรา | บริการจากเรา | สมาชิก | ||||||||||||||||||||||||||
|
|
![]() |
สมัคสมาชิก | |||||||||||||||||||||||||
![]() |
ลืมรหัสผ่าน | |||||||||||||||||||||||||||
![]() |
วิธีชำระเงิน | |||||||||||||||||||||||||||
![]() |
แพ็คเก็จสมาชิก | |||||||||||||||||||||||||||
![]()
|