หลวงพ่อลี ธมฺมธโร

ประวัติ หลวงพ่อลี ธมฺมธโร

 หลวงพ่อลี ธมฺมธโร ชื่อเดิม นายชาลี นารีวงศ์  เกิดเมื่อ วันที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๔๙ บ้านเกิดคือ บ้านหนองสองห้อง ต.ยางโยภาพ อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี เป็นบุตรของนายปาว และนางพ่วย นารีวงศ์ มีพี่น้องทั้งหมด ๙ คน ในครอบครัวตอนเด็กๆ ท่านเลี้ยงยากที่สุด

ท่านเรียนหนังสือพออ่านออกเขียนได้ เมื่ออายุ ๑๑ ปี มารดาเสียชีวิต ท่านเติบโตมากับน้องคนเล็ก พ่อและลูกคนอื่นได้ยึดอาชีพทำนา พออายุ่ได้ ๑๗ ปี ท่านออกจากโรงเรียน แล้วก็มุ่งหน้าทำมาหากิน หาเงินเลี้ยงตนเอง ทำงานรับจ้าง โดยนิสัยท่านเป็นคนขยันทำมาหากิน

บรรพชาและอุปสมบท

เมื่อถึงเทศกาลบวชนาค วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ บิดาได้จัดแจงให้ท่านบวชดังที่ต้องการ ท่านใฝ่เรียนรู้ทั้งสวดมนต์และศึกษาพระธรรมวินัย ในเดือนพฤศจิกายน งานเทศน์มหาชาติที่วัดบ้านโนนรังใหญ่  ต.ยางโยภาพ อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี ท่านได้พบกับพระกรรมฐานองค์หนึ่งที่กำลังเทศอยู่บนธรรมมาสน์ โวหารธรรมมะของท่านน่าเลื่อมใส หลวงพ่อลี จึงได้สอบถามกับญาติโยม จึงทราบว่า เป็นศิษย์พระอาจารย์มั่น ชื่อพระอาจารย์บท หลวงพ่อลี เมื่องานเทศน์มหาชาติแล้วเสร็จท่านได้ตามไปดู พระอาจารย์บท เห็นพฤกษ ปฏิบัติของท่านเป็นที่น่าพอใจ จึงได้สอบถามว่าใครคืออาจารย์ของท่าน  ท่านก็ตอบว่า พระอาจารย์มั่น พระอาจารย์เสาร์ เมือหลวงพ่อลีรู้ดังนั้นก็มั่นใจว่าจะได้พบครูบาอาจารย์ดังที่ท่านเคยอธิาฐานไว้ ไม่นานหลวงพ่อลีได้ลาโยมบิดาและพระอุปัชฌาย์ เพื่อแสวงหาธรรมมะจากพระอาจารย์ต่างๆ โดยลำพัง

หลวงพ่อลีมุ่งหน้าสู่ จ.อุบลราชธานี ท่านได้ทราบข่าวว่า พระอาจารย์มั่นพักอยู่ที่บ้านกุดลาด ต.กุดลาด อ.เมือง ห่างจาก จ.อุบลราชธานี ประมาณ 10 กิโลเมตร ได้รับความช่วยเหลือจาก พระบริคุตฯ ไปส่งท่านที่สนามบิน ทางไปบ้านกุดลาด แต่พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต กลับมาพักอยู่วัดบูรพา รุ่งเช้าอีกวัน ท่านเดินทางกลับมายัง จ.อุบลราชธานี เมื่อได้ไปกราบพระอาจารย์มั่น ท่านได้ชี้แนะและสอนคำภาวนาให้ว่า “พุทโธฯ” ท่านได้พักอาศัยอยู่ที่ บ้านท่าวังหิน นั่นมี พระอาจารย์มหาปิ่น ปญฺญาพโล พระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม และพระภิกษุสามเณรราว ๔๐ กว่าองค์พักอยู่ และได้เข้าฟังธรรมเทศนาของท่านทุกคืน

หลวงพ่อลี ท่านเเสวงหาความสงบวิเวก เมื่อได้เรียนรู้จาก หลวงปู่มั่น ภิกษุทั้งหลายที่จำพรรษาด้วยกัน ในพรรษานั้นได้พากเพียรทำสมาธิอย่างเข้มแข็ง เมื่อออกพรรษาแล้วต่างคนต่างแยกย้ายกันไป ใน วันที่ ๕ เดือนธันวาคม ๒๔๙๙  ท่านได้รับการแต่งตั้งสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นเอกในนามว่า “พระครูสุทธิธัมมาจารย์” เมื่อออกพรรษาได้ไปสร้างพระเจดีย์ไว้องค์หนึ่งสำหรับบรรจุพระบรมธาตุ ได้รับการสนับสนุนจากคณะศิษย์ อาจารย์ คาราวาสและชาวบ้าน หลังจากออกพรรษาหลวงพ่อลีไม่เคยอยู่นิ่งจะต้องสร้างประโยชน์ให้กับวัดที่ใดที่หนึ่ง

พระเครื่องวัดอโศการาม สมุทรปราการ

หลวงพ่อลีได้สะสมมวลสานจำนวนมากเเพื่อนำมาสร้างเป็นวัตถุมงคล พระเครื่องของท่านมีความแตกต่างทั้งด้านมวลสารและเนื้อพิมพ์ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อาทิ แบบพระสมเด็จพิมพ์แขนหักศอกที่เราเรียกว่า พิมพ์เผาแขนหักศอก