หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
ประวัติพระเกจิอาจารย์
พระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ชื่อเดิม "ดู่" เกิดเมื่อ วันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๔๔๗ เป็นบุตรของ นายพุด และนาง พุ่ม มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน ท่านเป็นบุตรคนสุดท้อง ท่านกำพร้าบิดามารดาตั้งแต่ 4 ขวบ เรื่องน่าอัศจรรย์ของท่านเมื่อครั้งแบเบาะท่านกลิ้งตกลงไปในน้ำแต่ไม่จมน้ำ กลับลอยติดอยู่ข้างรั้ว สุนัขที่เลี้ยงไว้เห็นเข้าส่งเสียงเห่าวิ่งกลับไปตามมารดามาช่วย ตรงกับช่วงหน้าน้ำ ในเวลากลางคืน ขณะที่มารดา กำลังทอด“ขนมมงคล” ท่านถูกวางไว้บนเบาะนอกชานคนเดียว ทำให้มารดาของท่านเชื่อว่าจะต้องเป็นผู้มีบุญวาสนามาเกิด ท่านได้รับการศึกษาเล่าเรียนที่วัดประดู่ทรงธรรม วัดกลางคลองสระบัว และวัดนิเวศน์ธรรมประวัติ
บรรพชาและอุปสมบท
เมื่อายุได้ 21 ปี ก็ก้าวเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ พระอุปัชฌาย์ คือ หลวงพ่อ กลั่น เจ้าอาวาสวัดพระญาติการาม มีหลวงพ่อ ฉาย วัดกลางคลองสระบัว เป็นพระอนุสาวนาจารย์และหลวงพ่อ แด่ เจ้าอาวาสวัดสะแก ขณะนั้นเป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พรหมปัญโญ” ในช่วงพรรษาแรกท่านได้ศึกษาพระปริยัติธรรม พระอาจารย์ผู้สอน คือ หลวงพ่อรอด (เสือ) พระครูชม และท่านเจ้าคุณเนื่อง เป็นต้น ส่วนการปฏิบัติพระกรรมฐานท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่อกลั่น และหลวงพ่อเภา
เมื่อท่านออกธุดงค์ได้เรียนรู้จากพระอาจารย์อีกหลายท่าน ท่านเคร่งครัดในพระธรรมวินัย และฝึกวิปัสนากรรมฐานอย่างหนัก อยู่มาวันหนึ่งท่านได้เกิดนิมิตธรรม ได้ฉันดาวที่มีแสงสว่างมาก ๓ ดวง เมื่อท่านพิจารณาใคร่ครวญ จึงเกิดความเข้าใจขึ้น ว่าแก้ว ๓ ดวงนั้น ก็คือพระไตรสรณาคมน์นั่นเอง ท่านว่า “พุทธัง สรณัง คัจฉามิ, ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ, สังฆัง สรณัง คัจฉามิ” ก็เกิดอัศจรรย์ขึ้นในจิต และมั่นใจว่า พระไตรสรณาคมน์นี้แหล่ะเป็นรากแก้วของพระพุทธศาสนา
หลวงปู่ดู่ ท่านเป็นนักปฏิบัติธรรม สอนให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท “ให้หมั่นพิจารณา อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา” “ให้หมั่นดูจิต รักษาจิต” “ของดีอยู่ที่ตัวเรา หมั่นทำ (ปฏิบัติ) เข้าไว้” เป็นต้น และสอนให้บรรดาศิษย์ทั้งหลายเจริญบำเพ็ญ ให้เห็นความสำคัญด้วยคุณงามความดีเท่านั้น
พระเครื่อง
วัตถุมงคลหลวงปู่ดู่ แหวนหลวงปู่ รุ่นแรก เป็น พ.ศ.2519 และรุ่นสุดท้าย พ.ศ. 2532, พระพิมพ์สมเด็จ รุ่นเสด็จนิวัตพระนคร พิมพ์ใหญ่, สมเด็จเสด็จนิวัต, เศียรพรหมใหญ่ 2512, พระเหนือพรหม 2517, พระเหนือพรหม เนื้อโขลก เป็นต้น