พระอาจารย์ประสูติ ปิยธัมโม

ประวัติพระอาจารย์ประสูติ ปิยธัมโม

พระอาจารย์ประสูติ ปิยธัมโม มีชื่อเดิมว่า “สูติ คงฤทธิ์” เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๙ตุลาคม ๒๕๐๘ ณ หมู่ที่ ๒ บ้านห้วยหลุด ตำบลห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง เป็นบุตรของนาย ประดิษฐ์ คงฤทธิ์ และนางสนิท คงฤทธิ์ ครอบครัวของท่านประกอบอาชีพเกษตรกรรมทำสวนยางพารา

ในวัยเยาว์ พระอาจารย์ประสูติได้ไปพักอยู่ที่วัดในเตาเพื่อเรียนหนังสือที่โรงเรียนบ้านทุ่งต่อ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง โดยในขณะนั้น พระอาจารย์ประสูติได้พักอยู่กับหลวงปู่แสง ธัมมสโร เจ้าอาวาสวัดในเตา (ในขณะนั้น) ซึ่งหลวงปู่แสงท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ในสายเขาอ้อ และมีชื่อเสียงมากในจังหวัดตรัง ด้วยเหตุที่พระอาจารย์ประสูติ ได้อยู่ใกล้ชิดกับหลวงปู่แสง จึงทำให้ท่านได้มีโอกาสร่ำเรียนวิชาต่างๆจากหลวงปู่แสงโดยตรง ท่านมีความตั้งใจศึกษาเล่าเรียนอย่างมากไม่ว่าจะเป็นวิชาที่หลวงปู่แสงถ่ายทอดให้ หรือเป็นการศึกษาในทางโลก ท่านได้อยู่กับหลวงปู่แสงจนเรียนจบในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ จากโรงเรียนห้วยยอด ต่อมาเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๒๙ ขณะที่ท่านมีอายุครบ ๒๐ ปี จึงได้เข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดห้วยยอด โดยมีพระครูนิมิตสังฆคุณ เจ้าคณะอำเภอห้วยยอด เป็นพระอุปัชฌาย์

หลังจากได้บวชแล้ว ท่านตั้งใจในการศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย และความรู้อื่นๆในทางธรรม จนสามารถสอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก ตราบเมื่อถึงเวลาอันควรแล้ว ท่านจึงได้ออกธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อแสวงหาวิชาความรู้ โดยครูบาอาจารย์ท่านแรกของท่าน คือ หลวงปู่แสง วัดในเตา ที่พระอาจารย์ประสูติเคยอยู่กับท่านมาก่อนในสมัยเรียน ซึ่งในเวลานั้นเรียกได้ว่า บริเวณวัดในเตา เป็นพื้นที่เขตสีแดง แต่ทั้งสองท่านคือหลวงปู่แสงและพระอาจารย์ประสูติ มิได้หวาดวิตกแต่ประการใด ท่านยังคงใช้ชีวิตในเพศบรรพชิตได้อย่างเป็นปกติ และที่สำคัญ ด้วยการปฏิบัติของท่านในร่มกาสาวพัสตร์ที่ไม่ขาดตกบกพร่อง จึงเป็นศูนย์รวมจิตใจของญาติโยม เป็นที่เคารพศรัทธาเลื่อมใส

อย่างไรก็ดี เมื่อพระอาจารย์ประสูติได้ร่ำเรียนวิชากับหลวงปู่แสง จนถึงเวลาอันสมควรแล้ว ท่านจึงได้กราบลาหลวงปู่แสงเพื่อธุดงค์ต่อไปยังสถานที่ต่างๆ ในการเรียนรู้วิชาจากครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆ ทำให้พระอาจารย์ประสูติมีครูบาอาจารย์อยู่ในหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นทางภาคเหนือ คือ ครูบาเหมย วัดศรีดงเย็น จังหวัดเชียงใหม่ ท่านก็ได้ฝากตัวเป็นศิษย์เพื่อศึกษาวิชาความรู้เช่นกัน ต่อมา พระอาจารย์ประสูติได้ธุดงค์ลงมายังภาคกลาง และฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดถ้ำแฝด จังหวัดกาญจนบุรี หรือแม้แต่ทางภาคใต้เอง ก็มีครูบาอาจารย์ที่พระอาจารย์ประสูติได้ไปศึกษาเล่าเรียนได้หลายท่าน ไม่ว่าจะเป็น พระอาจารย์หรีด วัดป่าโมกข์ จังหวัดพังงา, หลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร, หลวงปู่ชื่น วัดทุ่งชน จังหวัดตรัง เป็นต้น

โดยส่วนใหญ่แล้วท่านจะร่ำเรียนวิชาการปฏิบัติกรรมฐาน วิชาความรู้ต่างๆในทางพระพุทธศาสนา ปฏิบัติจนเข้าใจแจ่มแจ้ง และหมั่นฝึกฝนอยู่เป็นประจำ เป็นเหตุให้ท่านเป็นพระสงฆ์อีกหนึ่งรูป ที่มีสมาธิอันแก่กล้า สามารถปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆได้อย่างเข้มขลังอีกด้วย

ในปีพ.ศ. ๒๕๓๕ หลวงปู่แสง เจ้าอาวาสวัดในเตา ได้มรณภาพลง จึงเป็นเหตุให้วัดในเตาไม่มีเจ้าอาวาส สภาพของวัดจึงไม่ต่างจากวัดร้าง แม้ว่าจะมีพระสงฆ์มาพำนักอยู่เรื่อยๆก็ตาม แต่ก็ต้องย้ายไปพำนักที่อื่น ในเวลาต่อมา เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๐ พระอาจารย์ประสูติท่านได้กลับมาอยู่ที่วัดห้วยยอด ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในย่านวัดในเตาทราบข่าว จึงได้นิมนต์ให้ท่านมาเป็นเจ้าอาวาสวัดในเตา เพราะเห็นว่าพระอาจารย์ประสูตินั้น ท่านเป็นศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงปู่แสงมากที่สุด และเคยร่ำเรียนกับหลวงปู่แสงมาตั้งแต่เด็ก จึงเกิดความศรัทธาและไว้วางใจ พระอาจารย์ประสูติจึงเห็นควรรับนิมนต์ ทำให้ท่านมาเป็นเจ้าอาวาสวัดในเตาเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๔

วัตถุมงคล

วัตถุมงคลพระอาจารย์ประสูตินั้นถือว่ามีอยู่หลากหลายประเภท ซึ่งเป็นที่นิยม เช่น หุ่นพยนต์รุ่นแรก เนื่องจากท่านมีความเชี่ยวชาญในวิชาการผูกหุ่นพยนต์เป็นอย่างมาก ท่านสามารถอธิษฐานจิตผูกหุ่นพยนต์ให้เป็นได้ทั้งหญิงและชาย โดยหุ่นพยนต์รุ่นแรก ท่านได้ผูกมาจากตะกรุดที่ได้ลงอักขระเรียบร้อยแล้ว ร้อยด้วยด้ายสีเหลืองทอง ครั้งต่อมาเป็นการร้อยด้วยไหมสีขาว จากนั้นท่านจึงได้สร้างหุ่นพยนต์มงคลเก้า หรือ หุ่นพยนต์มหามงคล ๙ ที่ถือว่ามีความแรงในอานุภาพจนเป็นที่ปรารถนาของใครหลายคน โดยอานุภาพของหุ่นพยนต์ ๙ ยอดพระอาจารย์ประสูตินั้น มีอิทธิฤทธิ์ ๙ ประการ คือ ใช้งาน ใช้ค้าขาย เป็นมหาอุตม์ คงกระพัน มหาเสน่ห์ เฝ้าบ้านเฝ้ารถ เป็นเมตตามหานิยม เป็นกุมารทอง หนุนดวงชะตาราศรี

เหตุที่อานุภาพของหุ่นพยนต์ ๙ ยอดมีความเข้มขลังมากเป็นพิเศษ เนื่องจากพระอาจารย์ประสูติท่านได้สร้างหุ่นพยนต์ ๙ ยอด จากมวลสารอาถรรพ์หลากหลายประการ ตลอดจนแผ่นยันต์ที่ลงด้วยนะ ๑๐๘ แผ่น ปลุกเสกอย่างเข้มขลังตามตำรับวิชาของวัดเขาอ้อ จนได้ชื่อว่าเป็นหุ่นพยนต์ ๙ ยอดนักเลงใหญ่แห่งวัดถ้ำพระพุทธโกษีย์

นอกจากนี้ยังมี “เหรียญเสือนอนกิน” ที่นับว่ามีอานุภาพมากด้านความเจริญก้าวหน้า มีกินมีใช้ ซึ่งได้มีการออกแบบการสร้างอย่างสวยงาม อีกทั้งขั้นตอนการสร้างที่นำเหรียญเสือนอนกินเเช่น้ำมันเสือผสมว่าน108 ตามตำรา จึงทำให้มีประสบการณ์แก่ผู้บูชาอย่างมาก ในด้านของการมีกินมีใช้

นอกจากนี้ยังมี เครื่องราง ต่างๆที่ท่านได้สร้างขึ้น เกิดความนิยมในการบูชา เช่น ตะกรุด , ผ้ายันต์ , หน้ากากพรานบุญ, หน้ากากมโนราห์, หม่อมกวัก, เสือนอนกิน,เจ็ดนารีพันหลักและอื่นๆอีกมาก เรียกว่า พระอาจารย์ประสูตินั้นมีความเชี่ยวชาญอย่างมากในด้านเวทย์อาคม