หลวงปู่เผือก

หลวงปู่เผือก ปัญญาธโร หรือ พระครูกรุณาวิหารี เกิดที่บ้านคลองสำโรง ต.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๑๒ ต่อมาเมื่ออายุครบ ๑๓ ปี ท่านมีความใฝ่รู้ใฝ่เรียนเป็นอย่างมาก จึงได้มีโอกาสเรียนหนังสือกับพระอาจารย์อิ่ม อินทสโร ที่วัดกิ่งแก้ว ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ กระทั่ง อายุ ๑๕ ปี ได้กลับมาช่วยพ่อแม่ประกอบอาชีพทำนาทำสวน ซึ่งเป็นปกติของเด็กในสมัยนั้น

เมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่น อายุ ๑๘ ปี ได้รับใช้ชาติโดยเป็นทหารเรือ ๒ ปี แต่ด้วยบารมีของหลวงปู่เผือกที่มาในทางธรรม จึงทำให้ท่านได้มีโอกาสเข้ารับการอุปสมบท ณ วัดกิ่งแก้ว ได้รับฉายาในทางธรรมว่า "ปัญญาธโร"

หลังจากนั้น ท่านได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนในทางธรรมอย่างเคร่งครัด เช่น การศึกษาพระธรรมวินัย การเรียนอักขระตัวขอม ตลอดจาการฝึกปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานกับพระอาจารย์อิ่ม อินทรสโร เจ้าอาวาสวัดกิ่งแก้ว ซึ่งหลวงปู่เผือกก็ทำได้ดีจนเกิดความเชี่ยวชาญ

ต่อมา พระอาจารย์ อิ่ม อินทสโร มรณภาพ หลวงปู่เผือกจึงได้รับนิมนต์ของชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นรักษาการเจ้าอาวาส เพราะชาวบ้านเห็นว่าท่านเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาโดยตลอด จึงเกิดความและไว้วางใจ

กระทั่งปีพ.ศ. ๒๔๔๒ หลวงปู่เผือก หรือพระภิกษุเผือกในขณะนั้น ซึ่งมีวัยเพียง ๓๐ ปี และบวชในร่มกาสาวพัสตร์เป็นพรรษาที่ ๙ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส วัดกิ่งแก้วอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางความปิติยินดีของชาวบ้านที่ศรัทธาในหลวงปู่เผือกอยู่แล้ว

หลวงปู่เผือกได้ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา พัฒนาวัดกิ่งแก้วให้เจริญรุ่งเรืองตามลำดับ โดยการสร้างเสนาสนะเพิ่มขึ้นตามวาระและโอกาสอันสมควร ไม่ว่าจะเป็นพระวิหาร พระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ ฯลฯ อีกทั้งยังได้สร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม เพื่อเป็นที่ศึกษาของพระภิกษุสามเณรอีกด้วย

สำหรับการร่ำเรียนสรรพวิชาต่างๆนั้น ในครั้งหนึ่งหลวงปู่เผือกได้มีโอกาสไปศึกษาวิชากับหลวงปู่ทอง วัดลาดบัวขาว(วัดราชโยธา) ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้นหลวงปู่เผือกจึงได้ถวายตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ทอง เมื่อพ.ศ. ๒๔๓๐ – ๒๔๘๐ ซึ่งกล่าวกันว่า หลวงปู่เผือกท่านเป็นศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงปู่ทองอย่างมาก

มรณภาพ

พ.ศ. ๒๔๙๖ หลวงปู่เผือก อาพาธด้วยโรคมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงฆ์เป็นเวลาประมาณ ๗ เดือน หลังจากนั้นท่านก็อาการดีขึ้น จึงกลับมาปฏิบัติกิจของสงฆ์ได้เช่นเดิมที่วัดกิ่งแก้ว จนกระทั่งถึง วันที่ ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๑ เวลา ๒๓. ๔๕ น. หลวงปู่เผือกได้มรณภาพด้วยอาการสงบ สิริอายุได้ ๘๙ ปี ๗ เดือน ๑๗ วัน รวมพรรษา ๖๙ พรรษา

วัตถุมงคล

วัตถุมงคล ของ หลวงปู่เผือก ที่ท่านได้สร้างไว้มีอยู่หลากหลายประเภททั้ง พระเครื่อง และ เครื่องราง ที่เลื่องลือเป็นอย่างมากก็คือ “พระผง หลวงพ่อเผือก รุ่นขุดสระ” จัดสร้างขึ้นด้วยผงพุทธคุณ แต่คนสมัยก่อนเรียกพระรุ่นนี้ว่า “พระบัวคว่ำบัวหงาย”

สำหรับเหตุที่เรียกว่ารุ่นขุดสระ ก็เนื่องมาจากพระผงรุ่นนี้ หลวงปู่เผือก ท่านได้สร้างขึ้นเพื่อแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน ซึ่งได้มาช่วยขุดดินภายในวัด เพื่อปรับพื้นที่สร้างพระอุโบสถ โดยพื้นที่ดังกล่าว ถูกดินขุดออกไปจำนวนหนึ่ง จนกลายเป็น “สระน้ำ”ไปโดยปริยาย

ครั้งนั้นกล่าวกันว่า ชาวบ้านได้มาร่วมมือร่วมใจกันขุดดินโดยการไม่รับค่าแรงจนแล้วเสร็จ หลวงปู่เผือก ท่านจึงสร้างพระออกมาเพื่อเป็นที่ระลึกให้กับชาวบ้าน และตั้งชื่อว่า “รุ่นขุดสระ” โดยสร้างทั้งหมด ๓ พิมพ์ด้วยกัน คือ พิมพ์ใหญ่, พิมพ์เล็ก และพิมพ์สามเหลี่ยม หรือพิมพ์แจกแม่ครัว มีพุทธคุณครอบจักรวาล ทั้งแคล้วคลาด คงกระพัน เมตตามหานิยม โชคลาภและอื่นๆ เมื่อชาวบ้านได้นำไปบูชาก็ปรากฏเกิดประสบการณ์มากมายเป็นที่บอกเล่าต่อกันมา ประกอบกับความเก่าแก่ของพระรุ่นขุดสระและบารมีของหลวงปู่เผือก ทำให้ในปัจจุบัน พระผงขุดสระเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางและหาได้ยากมาก ราคาเช่าบูชาก็สูงตามไปด้วย

ต่อมาคือ “เหรียญ รูปเหมือน รุ่นแรก หลวงปู่เผือก” สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๑ โดยร้าน อมราภรณ์ ถนนตึกดิน กรุงเทพฯ ซึ่งเหรียญรุ่นนี้ หลวงปู่เผือก ท่านได้เมตตานำเข้าพิธีพุทธาภิเษกในงานหล่อพระรูปสมเด็จพระสังฆราชเจ้า ณ วัดราชบพิธฯ จึงนับได้ว่าเป็นเหรียญที่ได้เข้าพิธีดีพิธีใหญ่ จัดเป็นเหรียญดีเหรียญขลังอีกเหรียญหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก

ลักษณะ เหรียญ รุ่นแรก หลวงปู่เผือก เป็นการสร้างอย่างเรียบง่ายแต่ประณีตสวยงามแบบเดิมๆ โดยได้รับการออกแบบให้เป็นเหรียญสี่เหลี่ยม ผืนผ้า เนื้อฝาบาตร ด้านหน้าเหรียญเป็นรูปเหมือนหลวงปู่เผือกในอิริยบถนั่งขัดสมาธิบนฐานบัว ด้านหลังเหรียญมียันต์ห้าด้านบน สลักข้อความว่า "พระครูกรุณาวิหารี วัดกิ่งแก้ว" พุทธคุณของเหรียญรุ่นนี้ก็ถือว่าครอบจักรวาลเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นแคล้วคลาด คงกระพัน เมตตามหานิยม โชคลาภ ในปัจจุบัน เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่เผือกก็ยังคงได้รับความนิยมสำหรับนักสะสม พระเครื่อง พระเกจิอาจารย์ ทำให้ราคาสูงขึ้นตามไปด้วย