เบี้ยแก้ คือ เครื่องรางชนิดหนึ่ง ซึ่งมีอุปเท่ห์การใช้มากมายหลายอย่าง ทั้งกันและแก้สิ่งชั่วร้ายเสนียดจัญไร คุณไสย คุณคน คุณผี บาเบื่อ ยาเมา ทั้งหลาย คณาจารย์ยุคเก่าที่สร้างเครื่องรางประเภทเบี้ยแก้ เอาไว้มีด้วยกันหลายรูป แต่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เห็นจะมีอยู่เพียง ๒ รูปคือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว และหลวงปู่รอด วัดนายโรง โดยวันนี้ทางเราขอนำเรื่อง เบี้ยแก้ ของหลวงปู่รอด วัดนายโรงมาเล่าสู่กันฟัง ดังนี้
วัดนายโรง เป็นวัดเก่าแก่สร้างในสมัยรัชการพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ตั้งอยู่ที่ตำบลบางบำหรุ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ บริเวณวัดเดิมตั้งอยู่กลางสวนฝั่งธนบุรี ติดกับคลองบางกอกน้อยอยู่ใกล้กับวัดบางบำหรุ และวัดขี้เหล็ก ซึ่งได้กล่าวกันว่าวัดทั้ง 3 นี้จัดว่าเป็นวัดเก่าแก่ตั้งมา ตั้งแต่ครั้งปลายรัชสมัยกรุงศรีอยุธยา ผู้สร้างวัดนายโรงนี้ปรากฏหลักฐานว่า คือ นายโรงกรับ ซึ่งเป็นเจ้าของคณะละครนอก เดิมทีวัดนายโรงนี้ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดละครเจ้ากรับ หรือวัดนายกรับ ซึ่งก็ใช่เรียก ต่อๆ กันมา จนถึงปัจจุบันจึงได้เรียกชื่อวัดกันอย่างเป็นทางการว่า วัดนายโรง
ประวัติความเป็นมาของหลวงปู่รอดนั้น ไม่สามารถสืบ ทราบได้อย่างเป็นที่แน่นอน เพียงแต่รู้ได้จากปากของคนเฒ่าคนแก่พูดสืบต่อๆ กันมา ว่าแต่เดิมท่านมิใช่คนริมคลองบางกอกน้อย หากแต่ท่านเป็นชาวบ้านแถบคลองบางพรหม และอยู่ใกล้กับวัดเงิน อีกชื่อคือ วัดรัชฏาธิฐาน
เมื่อเติบใหญ่ท่านก็ได้อุปสมบทและศึกษาวิปัสสนาธุระ ณที่วัดเงินแห่งนี้ เมื่อท่านอุปสมบทได้หลายพรรษา จึงได้ออกรุกขมูลเพื่อฝึกจิตและปฏิบัติภาวนาอยู่หลายปี จนกระทั่งท่านได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดนายโรง และได้ถูกแต่ตั้งให้ได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสในที่สุด
ทางด้านพุทธาคมที่หลวงปู่ใช้ในการสร้างเบี้ยแก้จนเป็นที่อยากได้กันมาก ในมวลหมู่ลูกศิษย์ลูกหานั้น ได้กล่าวกันว่าหลวงปู่ท่านได้ไปศึกษากับหลวงปู่แขก แห่งวัดบางบำหรุ ซึ่งเป็นพระเถระที่แก่กล้าสรรพวิชาโบราณมากมาย หลวงปู่ได้ร่ำเรียนจนแตกฉานในด้านการสร้างเบี้ยแก้ นอกจากนั้นหลวงปู่ท่านยังมีพระสหธรรมมิกที่ได้ร่ำเรียนวิชาเบี้ยแก้มาด้วยกันคือ หลวงปู่ฉาย ซึ่งต่อมาก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดบางบำหรุต่อจากหลวงปู่แขกนั่นเอง
ในด้านวัตถุมงคลที่ท่านสร้างส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องรางประเภท ตะกรุด ผ้าประเจียด ผ้ายันต์ และที่สำคัญก็เบี้ยแก้ และชานหมากของหลวงปู่ ซึ่งหลวงปู่มักจะฉันในตอนทำพิธีปลุกเสกเบี้ยแก้ เมื่อท่านคายชานหมากออกมาหมู่ลูกศิษย์ลูกหาต่างแย่งกันขอหลวงปู่เพื่อไปสักการบูชา
การสร้างเบี้ยแก้ของหลวงปู่รอดวัดนายโรง ขั้นแรกจะต้องคัดตัวหอยเบี้ยที่มีฟัน 32 ซี่ ตามอาการทั้ง 32 ของมนุษย์จากนั้นตั้งศาลเพียงตา พร้อมเครื่องสังเวยบัดพลีเพื่อขอแบ่งปรอทจากวิทยาธรคนธรรพ์ ในอากาศ จากนั้นนําใบหญ้าคาลงพาดที่ปากเบี้ยปรอทก็จะมาจากในอากาศมีลักษณะเป็นเม็ดและจะวิ่งเข้าตัวเบี้ย 32 ตัวตามจํานวนฟันของเบี้ยแก้เมื่อปรอทเต็มก็จะกลายเป็นหนึ่งธาตุขันธ์ จากนั้นจึงนําแผ่นตะกั่วมาหุ้มปิดกันปรอทวิ่งออกจากตัวเบี้ย การหุ้มตะกั่วที่ตัวเบี้ยของหลวงปู่รอดนั้น จะหุ้มปิดปากเบี้ยและเปิดช่วงหลังเบี้ยไว้ บางตัวก็หุ้มปิดทั้งตัวเบี้ยก็มี และยังพบว่ายังมีที่ใช้ชันนะโรงไต้ดินอุดปิดปรอท หรือแม้กระทั้งใช้ผ้ายันต์ก็มีพบเช่นกัน จากนั้นหลวงปู่รอดท่านจะลงอักขระที่ตัวเบี้ยด้วยพระคาถาพระเจ้า 16 พระองค์และกํากับด้วยยันต์ตีนิสิงเห แล้วจึงปลุกเสกอีกครั้งก่อนที่จะมอบให้แก้ศิษย์ต่อไป