หลวงปู่หมุน

ประวัติหลวงปู่หมุน

“หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล” มีนามสกุลเดิมว่า “ศรีสงคราม” ท่านเกิดเมื่อวันพฤหัสบดี เดือน ๕ ปีชวด พ.ศ. ๒๔๓๗ ที่บ้านจาน อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นบุตรชายของ นายดี และนางอั๊ว

เมื่ออายุครบ ๑๔ ปี ท่านได้เข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณร โดยทางครอบครัวได้นำไปฝากไว้กับพระอาจารย์สีดา เจ้าอาวาสวัดบ้านจานในสมัยนั้น ที่ชาวบ้านต่างก็รู้กันดีว่า พระอาจารย์สีดา ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการปฏิบัติกรรมฐาน และเปี่ยมไปด้วยพุทธาคมอันแก่กล้า

สามเณรหมุน มีความตั้งใจใฝ่เรียนทางธรรมเรื่อยมา จวบจนถึงปี พ.ศ. ๒๔๖๐ จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ โดยมีหลวงพ่อสีดา เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อเพ็ง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาในทางธรรมว่า "ฐิตสีโล" แปลว่าผู้มีศีลตั้งมั่น

หลังจากนั้นเป็นต้นมา หลวงปู่หมุน ได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาในทางธรรม ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน การเรียนอักษรไทย อักษรขอม จากพระอุปัชฌาย์ ท่านมีความตั้งใจศึกษา ขยันหมั่นเพียร วิริยะอุตสาหะในวิชาความรู้ เป็นเวลา ๔ ปี ต่อมาเมื่อเห็นว่าถึงกาลอันเหมาะสมแล้ว จึงออกธุดงค์วิเวกไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อปฏิบัติภาวนา แสวงหาโมกขธรรม เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๔

สมัยก่อนนั้น เส้นทางการเดินธุดงค์ในป่าเขาลำเนาไพร มีความยากลำบากเป็นอันมาก อีกทั้งยังต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่มองเห็น เช่น สัตว์ร้ายต่างๆและสิ่งที่มองไม่เห็น คือภูตผีปีศาจ อาถรรพ์มนต์ดำทั้งหลาย แต่หลวงปู่หมุน ท่านก็ไม่ได้หวาดหวั่นหรือย่อท้อต่อสิ่งเหล่านี้ จนกระทั่งในครั้งหนึ่งระหว่างการธุดงค์ หลวงปู่หมุนได้มีโอกาสร่ำเรียนวิชาอาคมจาก สำนักตักศิลาแห่งบ้านจิกใหญ่ อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัด อุบลราชธานี ขณะเดียวกัน ท่านยังได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนคัมภีร์มหาพุทธาคม และ ตำราพิชัยสงคราม ตลอดจนสรรพวิชาอื่นๆที่หลวงปู่หมุนท่านได้แสวงหาความรู้อยู่ตลอดเวลากับหลากหลายครูบาอาจารย์

เมื่อร่ำเรียนพุทธาคมแล้วจนถึงเวลาอันเหมาะสมแล้ว ในปี พ.ศ. ๒๔๗๕ – ๒๔๘๒ หลวงปู่หมุนท่านได้เดินทางมากรุงเทพฯ และได้พำนักที่ วัดเทพธิดาราม และวัดวัดอรุณราชวราราม ในครั้งนี้เอง ท่านได้มีโอกาสเรียนวิชา คัมภีร์มูลกัจจายน์สูตร ซึ่งเป็นหลักสูตรอันเก่าแก่ของคณะสงฆ์ไทย ขณะเดียวกัน หลวงปู่หมุนยังสามารถสอบได้ เปรียญธรรม ๕ ประโยคในคราวเดียวเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้หลวงปู่หมุนท่านได้ถ่ายทอดวิชาความรู้ โดยทำหน้าที่เป็นครูสอนมูลกัจจายน์อยู่ที่วัดหงส์รัตนาราม ฝั่งธนบุรี นานหลายปี และทำให้มีสานุศิษย์มากมายนัก

เสร็จสรรพจากภารกิจที่กรุงเทพฯ แล้ว หลังจากนั้น หลวงปู่หมุน ท่านยังได้ธุดงค์วิเวกไปยังสถานที่ต่างๆ ทางภาคอีสาน และภาคใต้ จนกระทั่งถึงเขตประเทศมาเลเซีย ในระหว่างการธุดงค์ที่ภาคใต้ หลวงปู่หมุนได้มีโอกาสศึกษาสรรพวิชาต่างๆ จากพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช ต่อเมื่อท่านธุดงควัตรเข้าสู่เขตภาคอีสาน ท่านได้เรียนวิชากับหลวงปู่สี ฉันทสิริ และได้ศึกษาวิชากรรมฐานจากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และหลวงปู่แหวน สุจิณโณ อีกด้วย

 การธุดงค์ของหลวงปู่หมุนในทุกช่วงเวลา ถือได้ว่ามิได้ว่างเว้นจากการศึกษาเล่าเรียนวิชาต่างๆ กับครูบาอาจารย์หลายท่าน ไม่ว่าจะเป็น พระอาจารย์สิงห์ วัดป่าสาลวัน หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา หลวงพ่อขำ วัดเขาแก้ว และหลวงพ่อเงิน วัดมะปรางค์หลวง หลวงพ่อสอน วัดเสิงสาง

ประการสำคัญ หลวงปู่หมุน ยังได้ร่ำเรียนพุทธาคมในสายสำเร็จลุนแห่งนครจำปาศักดิ์ ราชอาณาจักรลาว จึงจะเห็นว่าหลวงปู่หมุนนั้น ท่านเป็นพระสงฆ์ที่เปี่ยมไปด้วยวิชาอาคมอย่างแท้จริง และมีความเชี่ยวชาญทั้งด้านการปฏิบัติกรรมฐาน เป็นผู้มีพลังจิตอันแก่กล้า ทำให้การปลุกเสกเสกวัตถุมงคลต่างๆมีความเข้มขลัง ได้รับความนิยมอย่างสูงจากอดีตจวบจนปัจจุบัน

มรณภาพ

หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล มรณภาพ เมื่อเวลา ๐๗.๓๐ น. วันที่ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๖ ที่กุฏิวัดบ้านจาน อ. กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ สิริอายุ ๑๐๙ ปี ๘๖ พรรษา

วัตถุมงคล

วัตถุมงคล ของ หลวงปู่หมุน เป็นที่นิยมและมีราคาที่สูงมากไม่ว่าจะเป็นรุ่นใดก็ตาม ซึ่งแต่เดิมนั้น ท่านจะไม่อนุญาตให้ใครสร้าง วัตถุมงคล จึงจะเห็นเฉพาะ ตะกรุด ของท่านที่ท่าถักเอง ลงอักขระเองทุกอย่าง เช่น ตะกรุดเชือกเขียว ซึ่งกว่าจะได้แต่ละดอกนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

สำหรับ “ลูกอม” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมจากผู้บูชา ท่านได้สร้างลูกอมมาจากชานหมาก ผสมด้วยเกศาและสีผึ้ง และทำการหุงให้แก่ญาติโยมที่มาร่วมทำบุญที่วัด ดังนั้นไม่ว่าจะเป็น วัตถุมงคล ของ หลวงปู่หมุน แต่ละรุ่น อาทิ เหรียญ ตะกรุด ลูกอม และอื่นๆ เมื่อมีผู้บูชาไปล้วนแต่เกิดประสบการณ์ทั้งสิ้น มีอานุภาพครอบจักรวาล ทั้งโชคลาภ แคล้วคลาด ป้องกันภัย กลับร้ายให้กลายเป็นดี พลิกชะตา หนุนชะตา ผีสางเกรงกลัว และยังสามารถป้องกันคุณไสยมนต์ดำได้ทุกชนิด จึงทำให้ วัตถุมงคล ของท่านเป็นที่นิยมและมีราคาที่สูงมาก เช่น พระเครื่อง ในตระกูลเหล็กน้ำพี้ ไม่ว่าจะเป็น กริ่งเหล็กน้ำพี้ เหรียญหล่อเหล็กน้ำพี้ พระปิดตาเหล็กน้ำพี้ พระชัยวัฒน์เหล็กน้ำพี้ ล้วนแต่ได้รับความนิยมและมีราคาสูง หรือจะเป็น พระกริ่งพรหมรังสี เหรียญรุ่นแรก ๑๐๓ ปี สมเด็จหล่อโบราณ รูปหล่อรุ่นแรกจารยันต์กอหญ้า เหรียญเสมา รุ่นมหาสมปรารถนาและอื่นๆอีกมาก

ยกตัวอย่าง “เหรียญรูปเหมือนรุ่นแรกหลวงปู่หมุน อายุ ๑๐๓ ปี” ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากเหรียญหนึ่ง ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๒ เนื้อเงิน ๕๑ เหรียญ เนื้อทองแดง ๕ พันเหรียญ มีทั้งตอกโค๊ต และไม่ตอกโค๊ต โดยได้สร้างขึ้นในคราวที่หลวงปู่หมุนท่านมีอายุ ๑๐๓ ปี เป็นเหรียญรูปเหมือน ด้านหน้าเหรียญสลักรูปหลวงปู่หมุนครึ่งองค์ ตอกโค้ดเลข 1 ด้านหลังเป็นอักขระเลขยันต์ สลักคำว่า “หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน ต.จาน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ” สำหรับเหรียญรุ่นนี้ จัดสร้างในนามวัดป่าหนองหล่ม จ.สระแก้ว เพื่อแจกจ่ายให้เป็นที่ระลึกในงานหล่อพระแก้วมรกตจำลอง หลวงปู่หมุนอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวเป็นเวลากว่า ๒ ปี ทำให้เหรียญรุ่นแรกมีพุทธคุณสูงรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น อานุภาพด้านแคล้วคลาด ป้องกันภัย พลิกชะตา หนุนดวงชะตา โชคลาภ กันภูตผีได้ดีอีกด้วย

ต่อมาคือ “เหรียญหล่อโบราณ ร.ศ.๒๑๘ เนื้อเหล็กน้ำพี้ รุ่นไตรมาสรวยทันใจ พ.ศ. ๒๕๔๓” ที่สร้างได้อย่างสวยงาม อานุภาพเข้มขลังทุกประการ

 สำหรับเครื่องรางของหลวงปู่หมุนที่นับได้ว่า เป็นที่เสาะแสวงหาของนักสะสมเครื่องราง คือ ตะกรุด หนึ่งในนั้น ได้แก่ “ตะกรุดโทน จตุธาตุววัฏฐาน” หรือ “นารายณ์สี่กร รุ่นเสาร์ห้าบูชาครู” เป็นการสร้างโดยมีการบริกรรมเดินธาตุ พิจารณาธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ พร้อมพอกผงพุทธคุณ ๑๐๘ ผงอิติปิโสรัตนมาลา และมวลสารที่เป็นมงคลอื่นๆอีกมาก โดยได้สร้างขึ้นอย่างถูกต้องตำรา มีความละเอียดประณีตในทุกขั้นตอนจึงทำให้ตะกรุดหลวงปู่หมุน เป็นที่นิยมในวงกว้าง

นอกจากนี้ยังมีวัตถุมงคลอื่นๆของหลวงปู่หมุนที่นับได้ว่ามีพุทธคุณ เป็นที่ปรารถนาของใครหลายคน เพราะนอกจากวัตถุมงคลของท่านจะเข้มขลังแล้ว ด้วยบารมีของหลวงปู่หมุน อันเป็นพระสงฆ์ที่ควรแก่การเคารพกราบไหว้ บารมีของท่านจะปกปักษ์รักษาคุ้มครองผู้ศรัทธาให้รอดปลอดภัยจากสิ่งไม่ดีทั้งปวง